++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2552

"กินข้าวเป็นยา" บำรุงสุขภาพแบบ "บริโภคบำบัด"

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 กันยายน 2552 09:05 น.


ถือเป็นอีกหนึ่ง กิจกรรมดีๆ ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามทีเดียว
สำหรับ "มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ" ที่ผ่านพ้นไปแล้วหมาดๆ
วัดได้จากประชาชนที่หลั่งไหลเดินทางมาร่วมชมงามอย่างคับคั่งแน่นขนัดทุกวัน
ภายในงานมีบูธน่าสนใจมากมาย
หนึ่งในนั้นคือบูธการแสดงตัวอย่างพันธุ์ข้าวชนิดต่างๆ
ที่เติมสีสันด้วยลูกเล่นสนุกๆ อย่าง "โชว์ฝัดข้าว"
ที่เรียกความสนใจจากประชาชนให้เข้ามามุงดูจำนวนมาก


หันซ้ายหันขวา
เห็นแม่ชีสองท่านกำลังขะมักเขม้นจดข้อมูลจากนิทรรศการแสดงพันธุ์ข้าว
และจากการสอบถามพบว่า
ทั้งสองท่านเป็นพี่น้องกันคือแม่ชีจันแก้วและแม่ชีจันแดง แนวขี้เหล็ก
เป็นแม่ชีอยู่ที่สำนักแม่ชีรัตนไพบูลย์ รามอินทรา
อันเป็นหนึ่งในสาขาของสถาบันแม่ชีไทย
โดยจุดประสงค์หลักที่มางานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติในครั้งนี้ก็คือการมาเก็บ
เกี่ยวความรู้เรื่องข้าวนั่นเอง

ตัวอย่างเมล็ดพันธุ์ข้าวสังหยด
"แม่ชีกำลังค้นคว้าเกี่ยวกับองค์ความรู้เรื่องข้าว
การที่กินข้าวเป็นยา กินเพื่อรักษาโรคและบำรุงร่างกาย"
แม่ชีจันแก้วให้ข้อมูล

ในขณะที่แม่ชีจันแดงอธิบายต่อว่าทุกวันนี้ประชาชนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น
ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ดี แม่ชีจึงถือโอกาสแนะนำวิธีการบำรุงสุขภาพง่ายๆ
ที่หลายคนอาจจะนึกไม่ถึง ด้วย "ข้าว" ที่เราๆ ท่านๆ
กินกันอยู่ทุกวันนี่แหละ!

"ข้าวเป็นอาหารหลักของหลายๆ ประเทศรวมทั้งประเทศไทย
และนอกจากจะเป็นอาหารแล้ว ข้าวยังเป็นยาอีกด้วย
ในคัมภีร์อายุรเวทระบุเอาไว้ว่าข้าว 9 สายพันธุ์หุงรวมกันจะเป็นการ
"เข้ายา" ทำให้ข้าวกลายเป็นยาบำรุงร่างกาย
แม่ชีคิดว่าน่าจะเป็นปฏิกิริยาเคมีของข้าวถักทอกันจนกลายเป็นสารที่ดีต่อ
ร่างกาย จึงนำความรู้ที่ได้อ่านมามาทดลองใช้เพื่อบำรุงสุขภาพ"

การสาธิตวิธีฝัดข้าว
แม่ชีจันแก้ว เสริมว่า ที่ผ่านมาทั้งแม่ชีจันแก้วและแม่ชีจันแดง
มีความสนใจด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
จึงได้ชักชวนกันไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมที่วัดพุทธปัญญา
ในโครงการเผยแพร่ความรู้ด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกที่พญ.เพ็ญนภา
ทรัพย์เจริญ ขุนพลการแพทย์แผนไทยผู้ล่วงลับเคยบุกเบิกเอาไว้

"ก่อนหน้านี้ สุขภาพไม่ดี ป่วยออดๆ แอดๆ ไม่แข็งแรง
และมีโรคประจำตัวคือโรคภูมิแพ้
จึงนำความรู้เรื่องข้าวเป็นยามาลองปรับใช้กับตัวเอง
เริ่มแรกแม่ชีเริ่มจากการกินข้าวไม่ขัดสีก่อน
เพราะข้าวไม่ขัดสีคือข้าวที่อุดมไปด้วยวิตามิน ส่วนข้าวขาวที่ขัดสี
ข้าวที่คนส่วนใหญ่ชอบกินนั้นจริงๆ มันคือ "กากข้าว"
เป็นส่วนที่แทบไม่มีประโยชน์เลย"

การสาธิตวิธีฝัดข้าว
แม่ชีทั้งสอง เล่าต่อไปว่า เมื่อออกสตาร์ทที่ข้าวไม่ขัดสีแล้ว
เป้าหมายต่อไปก็คือรวมรวมข้าวสายพันธุ์ต่างๆ
มาหุงรวมกันเพื่อทดลองตามตำราที่ได้ร่ำเรียนมา

"ตอนนี้รวบรวมได้ 6 สายพันธุ์ หลักๆ ก็จะเป็นข้างสังหยด
ข้าวหอมนิล ข้าวประกายนิล ข้าวมันปู ข้าวกล้องแดง แล้วก็ข้าวดอย ข้าวไร่
ที่ชาวบ้านชาวเขาเขาปลูกในท้องถิ่น ก็ลองนำมาหุงกินดู
ผ่านไปสักระยะหนึ่งปรากฏว่าร่างกายดีขึ้นจนสังเกตได้
ที่เคยเจ็บไข้ได้ป่วยง่ายๆ ก็แข็งแรงขึ้น อาการภูมิแพ้ก็หายไป
ตอนนี้ก็ยังค้นคว้าอยู่ เดี๋ยวนี้มีงานสมุนไพรและการแพทย์ทางเลือกมากขึ้น
ซึ่งนับว่าดี เป็นการให้ความรู้แก่ประชาชน
เวลามีงานแบบนี้แม่ชีก็จะพากันมาหาความรู้บ้าง มาศึกษาพันธุ์ข้าวบ้าง"

พันธุ์ข้าวเหนียวชนิดต่างๆ
แม่ชีจันแก้ว กล่าวต่อไปอีกว่า แนวคิดต่อยอดเรื่องข้าวเป็นยานี้
มีการนำมาใช้บำรุงและรักษาสุขภาพกันอย่างหลากหลาย
ไม่ว่าจะเป็นสูตรของพ่อเลี้ยงวรรณ พิมพนิช
ที่ป่วยเป็นมะเร็งกระดูกสันหลังระยะสุดท้ายและหายเพราะรักษาตัวแนวบริโภค
บำบัด และเน้นการรับประทานข้าว 5 ชนิดรวมกัน
หรือสูตรของการแพทย์แผนไทยที่ใช้ข้าว 9 ชนิด

"ตอนนี้แม่ชีก็ศึกษาไปเรื่อยๆ เท่าที่ทราบมา การนำข้าวหลายๆ
ชนิดมาเข้ายา ปรากฏว่ามีคนนำมาลองหุงแล้วบำรุงสุขภาพและทำให้หลายๆ
โรคหายไป อาการป่วยดีขึ้น อย่างของพ่อเลี้ยงวรรณ เมื่อลองกินข้าว 5
ชนิดแล้วหายจากโรคมะเร็ง ก็บริจาคความรู้เป็นวิทยาทาน ของแม่ชีเอง
ถ้าเก็บข้อมูลได้ครบและทดลองว่าได้ผลดีแล้ว
ก็จะบอกต่อความรู้ให้แก่ประชาชนทั่วไปให้เป็นวิทยาทานเช่นกัน"

ส่วนนิทรรศการความรู้เรื่องข้าวพื้นเมือง
แม่ชีทั้งสองท่านยังแนะนำการรักษาสุขภาพแบบง่ายๆ
ไม่สิ้นเปลืองเวลา
และสามารถนำมาประยุกต์กับชีวิตประจำวันในสังคมอันเร่งรีบได้อย่างสะดวกว่า
หากยังไม่สะดวกจะหาข้าวหลากหลายสายพันธุ์มาหุงกินแทนข้าวขาว
ก็ควรเปลี่ยนจากข้าวขาวมาเป็นข้าวกล้องก่อน
เมื่อกินไประยะหนึ่งร่างกายจะดีขึ้นจนรู้สึกได้

พันธุ์ข้าวเหนียวชนิดต่างๆ
แต่หากพอมีเวลาพอจะไปเดินหาซื้อของในห้างสรรพสินค้า
ปัจจุบันมีข้าวหลายชนิดหลายสายพันธุ์ถูกนำมาวางขายในห้างสรรพสินค้าแล้ว
ตามกระแสการใส่ใจสุขภาพที่มากขึ้นของคนทั่วไป
ผู้ที่สนใจอยากลองหุงข้าวรวมๆ กันหลายชนิดเพื่อบำรุงสุขภาพ
ก็สามารถซื้อหาได้ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำหลายแห่ง

"เคล็ดลับอีกอย่างที่แม่ชีอยากแนะนำ ก็คือ การดื่มน้ำข้าว
น้ำข้าวในที่นี้หลายคนอาจจะคิดว่ายุ่งยากเพราะต้องหุงข้าวแบบโบราณ
แต่จริงๆ แล้วสูตรของแม่ชีเป็นการหุงจากหม้อหุงข้าวไฟฟ้านี่แหละ
ไม่ยากอะไร เริ่มจากซาวข้าวหุงข้าวในหม้อหุงข้าวไฟฟ้าตามปกติ
แต่เติมน้ำให้มากๆ เข้าไว้ แล้วก็กดให้หม้อหุงข้าวทำงาน
รอฟังเสียงน้ำเดือด พอน้ำเดือด ก็เปิดฝาก่อน แล้วตักน้ำข้าวออกมาดื่ม
น้ำข้าวนี้จะอุดมไปด้วยวิตามิน กินเป็นของดี คนป่วยกินดี
แต่จะให้ดีคือกินตั้งแต่ตอนไม่ป่วย กินเพื่อบำรุงสุขภาพได้เรื่อยๆ ทุกวัน
และเมื่อตักน้ำข้าวออกมาดื่มแล้ว
ก็เติมน้ำลงไปให้พอดีหุงข้าวสุกเป็นข้าวสวยตามปกติ"

แม่ ชีจันแดง ทิ้งท้ายด้วยว่า
ทุกวันนี้แม่ชีแทบไม่สนใจเลยว่ากับข้าวจะเป็นอะไร เพราะสรรพคุณของข้าว 6
ชนิดรวมกันทำให้แม่ชีร่างกายแข็งแรง แต่เพื่อให้ได้สารอาหารครบหมู่
กับข้าวหลักของแม่ชีส่วนใหญ่จะเป็นผักและปลาจิ้งจ้างตัวเล็กๆ เท่านั้น
กินเช่นนี้มานานแล้ว และพบว่าไม่เจ็บไข้ได้ป่วยอันใดเลย

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000108116

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น