++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ข่าวคราวสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ 2009 (12 ก.ค.2552)

อนุ กก.ประชาสัมพันธ์ของรัฐ ย้ำทุกส่วนเร่งทำความเข้าใจประชาชนเรื่องหวัด 2009

from MOPH-Hot news by กรมประชาสัมพันธ์

คณะ อนุกรรมการประชาสัมพันธ์ของรัฐ
ย้ำทุกส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งทำความเข้าใจให้ความรู้ประชาชนเรื่องไข้หวัด
ใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หลังพบโพลระบุคนไทยเข้าใจรู้จักโรคดีเพียงร้อยละ
25 เท่านั้น ส่งผลความเชื่อมั่นต่อมาตรการของรัฐมีเพียงครึ่งเท่านั้น
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี
เป็นประธานประชุมคณะอนุกรรมการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและประชาสัมพันธ์
ครั้งที่ 2 ณ กระทรวงสาธารณสุข
โดยที่ประชุมได้มีการรายงานสถานการณ์ล่าสุดของการระบาดโรคไข้หวัดใหญ่สาย
พันธุ์ใหม่ 2009 และเน้นย้ำให้ทุกฝ่ายที่อยู่ในคณะอนุกรรมการฯ
ให้ดำเนินการตามแผนที่ได้ร่างไว้ก่อนหน้านี้ เน้นให้ความรู้ประชาชน
เพิ่มช่องทางการให้ข้อมูลข่าวสารกับประชาชนให้มากขึ้น
พร้อมตั้งกองบรรณาธิการตรวจสอบข่าวสารของสื่อมวลชนให้เป็นไปในทิศทางเดียว
กัน โดยมีศูนย์อยู่ที่กรมประชาสัมพันธ์
ทั้งนี้ในที่ประชุมยังได้มีการเปิดข้อมูลที่ได้จากการสำรวจความคิดเห็น
ประชาชน โดยสวนดุสิตโพล
พบประชาชนยังมีความเข้าใจเกี่ยวกับโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 น้อย
มีเพียงร้อยละ 25.54 ที่มีความรู้ความเข้าใจในระดับดี
ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของประชาชนต่อรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขในการรับมือ
กับโรคอยู่ที่ร้อยละ 51.16 ขณะที่ร้อยละ 44.19 ไม่เชื่อมั่น
แต่พบหลังการระบาดครั้งนี้ ทำให้ประชาชนร้อยละ 76.29
เปลี่ยนพฤติกรรมระวังตัวเองจากโรคต่างๆ มากขึ้น โดยร้อยละ 30.24
เลี่ยงไม่อยู่ใกล้กับผู้ป่วยเป็นหวัด ร้อยละ 25.67 ดูแลสุขภาพมากขึ้น
และร้อยละ 14.83 ล้างมือบ่อยขึ้น
===========

===========
สธ.เตรียมประสานค่ายมือถือส่ง SMS แจ้งข้อมูลหวัด 2009

from MOPH-Hot news by ASTV ผู้จัดการออนไลน์

นาย วิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวก่อนเปิดงาน
อย.ร้านยา รวมใจสู้ภัยไข้หวัด 2009 ว่า ในวันพรุ่งนี้ (13 ก.ค.)
จะขอความร่วมมือไปยังผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกระบบ
เพื่อขอให้ส่งข้อความสั้น หรือ SMS ไปยังผู้ใช้บริการ
ในเรื่องบุคคลที่มีความเสี่ยง
และข้อมูลเกี่ยวกับโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ขณะเดียวกัน
ย้ำว่าในฐานข้อมูลมีคนไทยที่เสี่ยงเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ฯ
แล้วอาจเสียชีวิตถึง 2 ล้านคน เนื่องจากมีโรคประจำตัว
ทางสาธารณสุขจึงเตรียมแจ้งข้อมูลให้ทั้ง 2 ล้านคนรับทราบ ทั้งทางจดหมาย
SMS และแจ้งผ่าน อสม.ประจำชุมชนต่างๆ สำหรับสถานการณ์ล่าสุด
พบผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่ฯ 2009 เพิ่มอีก 1 ราย เป็นรายที่ 17
ซึ่งเป็นหญิงอายุ 24 ปี ชาว จ.ราชบุรี มีโรคอ้วน น้ำหนักตัวถึง 150
กิโลกรัม และมีอาชีพดูแลร้านเกม และวันนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 247 คน
รวมทั้งสิ้นมีผู้ติดเชื้อสะสมทั่วประเทศ 3,745 คน
===========
ผู้ป่วยอายุ 11-20 ปี ติดเชื้อหวัด2009มากที่สุด

from MOPH-Hot news by เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ

สำนัก ระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานว่า
โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 พบผู้ป่วยในกลุ่มอายุ 11-20 ปี
มากที่สุด ร้อยละ 58.7 กลุ่มอายุ 6-10 ปี ร้อยละ 18.7 กลุ่มอายุ 21-30 ปี
ร้อยละ 8.8 กลุ่มอายุ 1-5 ปี ร้อยละ 4.0 กลุ่มอายุ 31-40 ปี ร้อยละ 3.7
กลุ่มอายุ 41-50 ปี ร้อยละ 3.2 กลุ่มอายุ 51-60 ปี ร้อยละ 1.3 กลุ่มอายุ
มากกว่า 60 ปีขึ้นไป ร้อยละ 0.5 โดยขณะนี้ พบผู้ป่วยยืนยันแล้ว 67
จังหวัดทั่วประเทศ นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ ประธานกรรมการทุนวิจัยวัณโรคดื้อยา
กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์การระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 พบว่า
กลุ่มผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 มากที่สุด คือ กลุ่มเด็ก 6-15 ปี
ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อถึง 80% ของจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด
ซึ่งการแพร่ระบาดของเชื้ออย่างรวดเร็ว
เนื่องจากคนส่วนใหญ่มักไม่มีความรู้ในเรื่องการป้องกันที่ดีพอ
โดยพบว่าคนปกติจะนิยมสวมหน้ากากอนามัยมากกว่าคนป่วย
ซึ่งไม่ได้ช่วยป้องกันการแพร่เชื้อแต่อย่างใด
จึงจำเป็นต้องรณรงค์ให้ผู้ป่วยหันมาสนใจสวมหน้ากากอนามัยมากขึ้น
เพราะการสวมหน้ากากอนามัยสามารถช่วยลดการแพร่เชื้อได้มากถึง 80%
ส่วนการคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญไวรัสวิทยา นำโดย นพ.ประเสริฐ ทองเจริญ
ระบุว่า การระบาดจะยังอยู่ในประเทศไทยยืดเยื้อต่อไปอีก 1-3 ปี นับจากปี
2552-2554 โดยในปี 2552
นี้จะมีจำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ทั้งหมดสูงกว่าปีก่อนๆ และคาดการณ์ว่า
การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ จะทำให้มีผู้ป่วย
และผู้เสียชีวิตมากกว่าไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล คาดการณ์ว่าในช่วง 3 ปี
จะมีผู้ติดเชื้อ 6-30 ล้านคน ผู้ป่วยที่มีอาการ 3-15 ล้านคน
ผู้ป่วยนอกที่ รพ. 6 แสน-3.4 ล้านคน ผู้ป่วยใน รพ. 3 หมื่น-1.3 แสนคน
ผู้เสียชีวิต 1,200 คน
หากได้รับการรักษาที่เหมาะสมคาดว่าจะเสียชีวิตประมาณ 600 คน
ในระยะถัดไปเชื้ออาจกลายพันธุ์ได้
แต่ไม่สามารถคาดเดาว่าการกลายพันธุ์จะทำให้เชื้อมีความรุนแรงมากขึ้นหรือ
น้อยลง ส่วนสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในประเทศไทย ว่า
ผลการตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการพบผู้ป่วยเพิ่มอีก 157 ราย
รวมตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย. 2552-11 ก.ค. 2552
ไทยมีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ทั้งสิ้น 3,228 ราย เสียชีวิต 16
รายเท่าเดิม อาการหนักอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิด 6 ราย
องค์การอนามัยโลกรายงานสถานการณ์โลก ตั้งแต่ 24 เม.ย. 2552 ถึง 10 ก.ค.
2552 ตามเวลาในประเทศไทย พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ใน 136
ประเทศ รวมผู้ป่วยทั้งสิ้น 94,512 ราย เสียชีวิต 429 ราย อัตราป่วยร้อยละ
0.45 ประเทศที่มีรายงานผู้ป่วยยืนยันรายแรก ได้แก่ เวอร์จิ้นไอแลนด์
Add starShareShare with noteEmail
===========
โรงพยาบาลเอกชน ยืนมาตรฐานราคา 3,500 บาท ตรวจหาเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009

from MOPH-Hot news by กรมประชาสัมพันธ์

นาย แพทย์เฉลิม หาญพาณิชย์ เลขาธิการสมาคมโรงพยาบาลเอกชน กล่าวว่า
หลังจากการหารือได้ข้อยุติ สรุปราคาการตรวจเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่
2009 อยู่ที่ 3,500 บาท
เพื่อใช้เป็นมาตรฐานเดียวกันในทุกโรงพยาบาลในเครือเอกชน
โดยแบ่งเป็นการตรวจคัดกรองหาชนิดของเชื้อ 500 บาท
หากพบส่งตรวจหาเชื้อห้องแล็บอีก 3,000 บาท
ซึ่งไม่รวมค่ายาและค่าบริหารจัดการในส่วนอื่น ๆ ของโรงพยาบาล
ส่วนการรักษาผู้ป่วยจะใช้มาตราฐานการรักษาเดียวกันของกระทรวงสาธารณสุข
รวมถึงใช้เครือข่าย net working ในการร่วมกันดูแลรักษาผู้ป่วย
ทั้งนี้หากพบผู้ป่วยเสียชีวิตจะมีการรายงานผลมายังกระทรวงสาธารณสุขภายใน
24 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่เข้าข่ายไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่
2009 ควรเข้ารักษาตัวตามสิทธิที่ตนเองสังกัด
เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนอื่น
พร้อมกันนี้ควรตรวจเท่าที่จำเป็น หรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยงเท่านั้น
===========
สธ. เตรียมนำตัวอย่างไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
จากรัสเซียมาตรวจวิเคราะห์เพื่อผลิตวัคซีนต้านไวรัสในวันที่ 15
กรกฎาคมนี้

from MOPH-Hot news by กรมประชาสัมพันธ์

กระทรวง สาธารณสุข เตรียมนำตัวอย่างไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
จากรัสเซียมาตรวจวิเคราะห์เพื่อผลิตวัคซีนต้านไวรัส
และตั้งแต่สัปดาห์หน้า
จะให้บุคลากรในโรงพยาบาลของรัฐทุกคนสวมใส่หน้ากากอนามัยแสดงความรับผิดชอบ
ต่อสังคม นายวิทยา แก้วภาราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
กล่าวภายหลังการประเมินสถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่
2009 ร่วมกับคณะทำงานของพรรคประชาธิปัตย์
และผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดไวรัสวิทยาว่า กระทรวงสาธารณสุข
จะออกมาตรการเพิ่มเติมในการป้องกันการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์
2009 ด้วยการรณรงค์ให้ความรู้กับประชาชนในการป้องกันการติดเชื้ออย่างเข้มข้น
พร้อมทั้ง เตรียมนำวัคซีนต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2 ล้านโดส
จากองค์การอนามัยโลก มาใช้รักษาผู้ป่วยในเดือนตุลาคมนี้ และในวันที่ 15
กรกฎาคมนี้ จะนำตัวอย่างไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2009
จากรัสเซียมาตรวจวิเคราะห์เพื่อผลิตวัคซีนต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2009
ในโรงงานต้นแบบ ที่มหาวิทยาลัยศิลปากร จังหวัดนครปฐม รวมทั้ง
จะปรับระบบฐานข้อมูลผู้ป่วย ด้วยการเชื่อมระบบของโรงพยาบาลเอกชน
กับของรัฐ พร้อมเปิดช่องทางพิเศษ เช่น คลีนิคนอกเวลา ในการรักษาผู้ป่วย
และการใช้มาตรการดูแลผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงที่มีโรคประจำตัวจำนวน 2
ล้านคนในประเทศ โดยจะให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.)ทำหนังสือแจ้งไปยังกลุ่ม
เสี่ยงดังกล่าว เพื่อให้รับทราบและใช้เป็นหนังสือยืนยันทำการรักษากับแพทย์ที่ต้องดูแลเป็น
กรณีพิเศษ หากมีการติดเชื้อไข้หวัด 2009 ให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์
นายวิทยา กล่าวด้วยว่า ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป กระทรวงสาธารณสุข
จะให้บุคลากรในโรงพยาบาลของรัฐทุกคนสวมหน้ากากอนามัย
เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ขณะที่มาตรการการปิดโรงเรียน
จะปิดเฉพาะโรงเรียนกวดวิชาก่อน เพื่อชะลอตัวเลขผู้ติดเชื้อ
หากพบว่ามีการระบาดหรือมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอาจพิจารณาปิดโรงเรียน
รวมถึง ร้านเกม ร้านอินเตอร์เน็ต และการจัดคอนเสิร์ตเพิ่มเติม
Add starShare

===========
สธ.ปรับแผนรับมือหวัด 2009 สั่งหมอ-พยาบาลสวมหน้ากากอนามัยทุกคน

from MOPH-Hot news by ASTV ผู้จัดการออนไลน์

กระทรวง สาธารณสุข ปรับแผนรับมือสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ 2009
พร้อมกำชับให้แพทย์-พยาบาล และเจ้าหน้าที่ประจำโรงพยาบาลทุกคน
สวมหน้ากากอนามัย เพื่อยืนยันเป็นพื้นที่ปลอดภัยต่อการได้รับเชื้อ
นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า
ได้เชิญรองปลัดกระทรวง และอธิบดีทุกกรมในสังกัด มาหารือถึงการดำเนินงาน
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน
โดยเฉพาะในการประมวลตัวเลขผู้ป่วยที่เป็นจริง ทั้งนี้
เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน ได้มอบหมายให้ นพ.ไพจิตร์ วราชิต
รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขและสำนักระบาดวิทยา
ทำหน้าที่ในการแถลงตัวเลขผู้ป่วยหรือเสียชีวิตเพียงคนเดียว อย่างไรก็ตาม
การรณรงค์ป้องกันที่ในเริ่มในวันจันทร์(13 ก.ค.)นี้
โดยให้ทุกโรงพยาบาลสังกัด กำชับเจ้าหน้าที่ทุกคนที่อยู่ในโรงพยาบาล
จะต้องสวมหน้ากากอนามัย เพื่อทำให้เห็นว่าพื้นที่ปลอดภัย
เพื่อเป็นหลักประกันแก่ผู้ที่เข้ามารักษาในโรงพยาบาลว่าจะไม่มีเชื้อติดกลับ
ออกไป อีกทั้งยังเป็นการรักษาบุคลากรทางการแพทย์
ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงคลุกคลีกับผู้ป่วย ให้มีมาตรฐานความปลอดภัยด้วย
===========
สธ.เตือนผู้เข้าร่วมชุมนุมกับวัดพระธรรมกายคาดหน้ากากอนามัย
หวั่นทำติดหวัด 2009 พุ่ง

from MOPH-Hot news by กรมประชาสัมพันธ์

กระทรวง สาธารณสุข
เตือนผู้เข้าร่วมชุมนุมกับวัดพระธรรมกายคาดหน้ากากอนามัยทุกคน
เพื่อป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009
พร้อมร่วมมือกระทรวงไอซีทีเปิดสายด่วน 1442
เพื่อเป็นช่องทางตอบคำถามประชาชนเกี่ยวกับโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่
2009 นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
กล่าวถึงกรณีวัดพระธรรมกายนัดชุมนุมใหญ่ในวันพรุ่งนี้ (11 ก.ค.52)
โดยระบุจะมีผู้เข้าร่วมถึง 5 แสนคน
ว่าเป็นห่วงเรื่องการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
เพราะยิ่งจุดที่มีการรวมตัวกันอยู่มาก
ก็จะยิ่งเสี่ยงต่อการติดต่อของโรคได้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้
กระทรวงสาธารณสุขไม่มีอำนาจสั่งห้ามไม่ให้มีการชุมนุมได้
จึงได้มอบให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นผู้ดูเรื่องนี้แล้ว
โดยแนะนำให้ผู้ที่จะร่วมชุมนุมงดเข้าร่วม หากรู้ตัวว่าไม่สบาย
รวมทั้งจำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัยทุกคน
พร้อมขอความร่วมมือผู้จัดการชุมนุมและคอนเสิร์ตต่าง ๆ
ที่รวมผู้คนจำนวนมาก
ขอให้ร่วมมือทำตามมาตรการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
อย่างเคร่งครัด นายวิทยา กล่าวด้วยว่า กระทรวงฯ
เตรียมเปิดสายด่วนตอบคำถามเรื่องไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เพิ่มอีก
20 คู่สาย ที่โทร 1422 หลังกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ
ไอซีที ได้ให้ความอนุเคราะห์จัดสรรให้ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มใช้เร็ว ๆ นี้
Add starShareShare with note
===========
สธ. จับมือ ร้านขายยา สร้างเครือข่ายรับมือไข้หวัดใหญ่ 2009

from MOPH-Hot news by กรมประชาสัมพันธ์

กระทรวง สาธารณสุข เร่งสร้างเครือข่ายร้านขายยา
รับมือโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในโครงการ " อย. -
ร้านยารวมใจสู้ภัยไข้หวัดใหญ่ 2009 "
เพื่อควบคุมการระบาดและสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชน นายวิทยา
แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า
จากการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 พบว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่
ซื้อยาลดไข้มารับประทานเอง ทำให้ไม่ทราบแน่ชัดว่า
มีอาการเข้าข่ายโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หรือไม่
กระทรวงสาธารณสุข จึงร่วมกับ องค์การอาหารและยา จัดโครงการ " อย. -
ร้านยารวมใจสู้ภัยไข้หวัดใหญ่ 2009" เพื่อคัดกรองผู้ป่วยจากร้านขายยา
และเภสัชกรผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการในร้านขายยา ในการซักถามอาการผู้ป่วย
หากมีอาการเป็นไข้สูง และเข้าข่ายโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
ควรรีบส่งต่อผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลทันที
ทั้งนี้ การส่งต่อผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงเข้าสู่ระบบโรงพยาบาลนอกจากจะเป็นการช่วย
ชีวิตผู้ป่วยได้ทันท่วงทีแล้ว
ยังเป็นประโยชน์ต่อการควบคุมการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
อีกทางหนึ่งด้วย
===========
สธ.เผยภาวะอ้วนทำให้เสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่

from MOPH-ข่าวเพื่อสื่อมวลชน by สำนักสารนิเทศ

กระทรวง สาธารณสุข เผยรายงานทางการแพทย์พบภาวะอ้วนเป็นปัจจัยเสี่ยง
ทำให้ผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ
เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงและเสียชีวิตได้
โดยวันนี้ได้รับรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย
และผลการตรวจสอบรายละเอียดหญิงเสียชีวิตที่จังหวัดอยุธยาพบยืนยันโรคไข้หวัด
ใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ วันนี้ (12 กรกฎาคม 2552) นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต
รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ
ของไทย วันนี้ได้รับผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันผู้ป่วยเพิ่มอีก 247
ราย รวมตั้งแต่ 28 เมษายน 2552 - 12 กรกฎาคม 2552
มีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ สะสมรวม 3,555 ราย
และมีผู้ป่วยอาการหนักซึ่งต้องอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิด 6 ราย
นายแพทย์ไพจิตร์ กล่าวต่อว่า เช้าวันนี้ ได้รับรายงานจากโรงพยาบาลศิริราช
ว่ามีผู้เสียชีวิตเป็นหญิงไทย อายุ 24 ปี อยู่จังหวัดราชบุรี
ซึ่งรับรักษาต่อจากโรงพยาบาลบ้านโป่ง มีน้ำหนักตัว 150 กิโลกรัม
เริ่มป่วยตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน 2552
เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลบ้านโป่ง เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2552
ด้วยอาการหอบ มีไข้ ไอ มีน้ำมูก ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2552
ส่งมารักษาต่อที่โรงพยาบาลศิริราช
ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ
อีกรายเป็นชายไทย อายุ 19 ปี บ้านเดิมอยู่จังหวัดกระบี่
เริ่มป่วยเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2552
เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราชในวันที่ 9
กรกฎาคม 2552 ด้วยอาการหอบ มีไข้
จากนั้นผู้ป่วยมีอาการหนักขึ้นจึงส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลทุ่งสง
จังหวัดนครศรีธรรมราช วันที่ 10 กรกฎาคม 2552
เอ็กซ์เรย์พบว่ามีปอดอักเสบทั้งสองข้าง จึงส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ผู้ป่วยเสียชีวิตในเย็นวันเดียวกัน และวันที่ 12 กรกฎาคม 2552
ได้รับการรายผลยืนยันทางห้องปฏิบัติการจากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ตรัง
พบว่าติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ
สำหรับผู้เสียชีวิตที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาวานนี้(11 กรกฎาคม 2552)
เป็นชายไทย อายุ 45 ปี มีน้ำหนักตัวค่อนข้างมาก
และยังมีโรคประจำตัวอีกหลายโรค ได้แก่ มีภาวะไตวาย หัวใจโต
ความดันโลหิตสูง ปอดอักเสบ
และโรคฉี่หนูผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันแล้วว่าติดเชื้อไข้หวัดใหญ่
สายพันธุ์ใหม่ฯ นอกจากนี้
กระทรวงสาธารณสุขเพิ่งได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
ว่าผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2552 เป็นชายไทย อายุ 13
ปี อยู่กรุงเทพฯ ได้ให้สำนักระบาดวิทยาเข้าไปสอบสวนโรค
เพื่อหารายละเอียดการเสียชีวิตที่แท้จริง
และนำมาจัดระบบข้อมูลการเฝ้าระวังและการรักษา คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1-2
วัน นายแพทย์ไพจิตร์ กล่าวต่อไปว่า เมื่อเร็วๆ นี้
ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสของศูนย์ควบคุมโรคแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา
ได้เปิดเผยรายงานการศึกษาข้อมูลผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ
เอช 1 เอ็น 1 ที่มีภาวะแทรกซ้อนของระบบทางเดินหายใจอย่างรุนแรงต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
ของโรงพยาบาลมิชิแกน สหรัฐอเมริกา จำนวน 10 ราย พบว่า ผู้ป่วย 9 ราย
มีดัชนีมวลกายมากกว่า 30 (ดัชนีมวลกาย
ซึ่งคำนวณได้จากน้ำหนักตัวเป็นกิโลกรัม หารด้วยส่วนสูงเป็นเมตรยกกำลังสอง
มีค่าปกติ 18.5-22.9) ซึ่งถือว่ามีภาวะอ้วนมาก ในจำนวนนี้ 7
รายมีภาวะอ้วนขั้นสูงสุด คือดัชนีมวลกายมากกว่า 40 นอกจากนี้ ยังพบว่า
ในผู้ป่วย 9 รายจาก 10 ราย มีการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายล้มเหลว
ซึ่งพบได้ในผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ทั่วไป นอกจากนี้ยังพบว่ามีผู้ป่วย 5
รายที่พบภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอด และ 6 รายพบภาวะไตวาย
ซึ่งข้อมูลที่ได้แสดงให้เห็นว่าภาวะอ้วน
เป็นอีกปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ
เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงและเสียชีวิตได้
ขณะนี้ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีโรคประจำตัวกระทรวงสาธารณสุขขอแนะนำ
ให้ผู้ที่มีโรคประจำตัวทุกรายหากป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ให้รีบไปพบแพทย์และ
บอกว่าตนเองมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน หัวใจ หอบหืด ปอด และโรคอ้วน
เป็นต้น เพื่อแพทย์จะได้ดูแลอย่างใกล้ชิด ****************************12
กรกฎาคม 2552
===========
สธ.ขอความร่วมมือร้านขายยา
ช่วยคัดกรองผู้ป่วยสงสัยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯส่งโรงพยาบาล

from MOPH-ข่าวเพื่อสื่อมวลชน by สำนักสารนิเทศ

รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ขอความร่วมมือร้านขายยาช่วยเป็นด่านแรกคัดกรองและให้คำแนะนำผู้ป่วยโรคไข้
หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 หากพบกลุ่มเสี่ยง เช่น ไข้สูง
มีโรคประจำตัว หรืออ้วน รีบส่งรักษาต่อโรงพยาบาล
เพื่อป้องกันอันตรายถึงชีวิต เตรียมประสานการสื่อสารแห่งประเทศไทย
และบริษัทมือถือทุกค่าย ส่งคำแนะนำการปฏิบัติตัวป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ฯ
ผ่านทางจดหมายและข้อความทางโทรศัพท์มือถือ วันนี้ (12 กรกฎาคม 2552)
นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานเปิดงาน อย.-ร้านยารวมใจสู่ภัยไข้หวัดใหญ่ 2009
ที่โรงแรมเซ็นจูรี่ปาร์ค กทม.
และเดินทางไปแจกหน้ากากอนามัยพร้อมเจลล้างมือ ที่ สนามมวยช่องเจ็ดสี ว่า
ร้านขายยาเป็นที่พึ่งแรกของประชาชน เมื่อเจ็บป่วยเล็กน้อย
มักไปขอคำปรึกษาและซื้อยามารับประทาน ดังนั้น
กระทรวงสาธารณสุขจึงได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการร้านขายยาทุกแห่ง
เภสัชกรประจำร้าน
ขอให้ช่วยซักประวัติและอาการผู้ที่ป่วยคล้ายไข้หวัดอย่างละเอียด
หากมีอาการรุนแรง เช่น ไข้สูง หรือมีโรคประจำตัว มีภาวะอ้วน
ให้แนะนำไปรับการรักษาที่โรงพยาบาล
เนื่องจากอาจมีความเสี่ยงจะเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการร้านขายยาเป็นอย่างดี นายวิทยา
กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขห่วงใยกลุ่มบุคคลที่มีโรคประจำตัว
ที่มีความเสี่ยงจะเป็นอันตรายจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1
เอ็น 1 ขณะนี้มีอยู่ 2.4 ล้านคนทั่วประเทศ
โดยมีข้อมูลผู้ป่วยที่โรงพยาบาลทั่วประเทศอยู่แล้ว
ทั้งนี้ได้ขอความร่วมมือ การสื่อสารแห่งประเทศไทย
จัดส่งคำแนะนำข้อปฏิบัติตัวทางจดหมายให้แก่บุคคลกลุ่มดังกล่าว
และให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านลงไปติดตามให้ผู้ป่วยปฏิบัติตามคำแนะ
นำที่ส่งไปให้ โดยในวันพรุ่งนี้(13 กรกฎาคม 2552)
จะได้ประสานกับบริษัทมือถือทุกค่าย
ขอความร่วมมือส่งข้อความคำแนะนำการปฏิบัติตัวป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ฯ
ไปยังเจ้าของโทรศัพท์ทุกหมายเลขอีกด้วย นายวิทยากล่าวต่อว่า
สำหรับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1
ขณะนี้ประเทศไทย
ได้ให้องค์การเภสัชกรรมสั่งจองวัคซีนชนิดเชื้อตายไปยังบริษัทซาโนฟี่
จำนวน 2 ล้านโดส ในวงเงิน 10 ล้านยูโร ใช้งบรัฐบาลและงบจาก สปสช.
จะได้วัคซีนประมาณต้นธันวาคม 2552 นี้
ส่วนวัคซีนชนิดเชื้อเป็นที่องค์การเภสัชกรรมจะเป็นผู้ผลิต
อยู่ระหว่างรอเชื้อไวรัสต้นแบบจากองค์การอนามัยโลก
ซึ่งได้มาจากประเทศรัสเซีย จะมาถึงไทยในวันที่ 16 กรกฎาคม 2552 นี้
หลังจากนั้นจะทำการผลิตวัคซีนเพื่อทดลองในสัตว์และในคนทันที
คาดว่าจะได้ใช้ภายในปลายปีนี้แน่นอน
************************************************** 12 กรกฎาคม 2552

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น