++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอังคารที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

คุณเป็นโรคกรดไหลย้อนหรือเปล่า / เอมอร คชเสนี

คน ส่วนใหญ่คุ้นเคยดีกับโรคกระเพาะอาหารอักเสบ
ดังนั้นเมื่อมีอาการเรอเปรี้ยว หรือมีรสขมในปาก
ปวดแสบในท้องบริเวณลิ้นปี่ ก็มักจะเหมาว่าเป็นอาการของโรคกระเพาะ
ทั้งที่จริงแล้ว คุณอาจจะเป็น "โรคกรดไหลย้อน"

ตามปกติแล้ว
ช่วงต่อของกระเพาะอาหารและหลอดอาหารจะมีกล้ามเนื้อหูรูดที่ทำหน้าที่ปิดกั้น
ไม่ให้อาหารหรือกรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นไปยังหลอดอาหาร

โรคกรดไหลย้อน
คือภาวะที่กรดหรือน้ำย่อยจากกระเพาะอาหารสามารถไหลย้อนขึ้นไปยังหลอดอาหาร
ได้ ซึ่งอาจเกิดได้จากกล้ามเนื้อหูรูดดังกล่าวทำงานผิดปกติไป

กรดไหลย้อน
ปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้เกิดกรดไหลย้อน ที่สำคัญได้แก่ ความ อ้วน
การตั้งครรภ์ การสูบบุหรี่ และอาหารบางประเภท เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
อาหารรสจัด ทั้งเปรี้ยว เผ็ด เค็ม อาหารมัน อาหารทอด ตลอดจนช็อกโกแลต หอม
กระเทียม มะเขือเทศ และผลไม้รสเปรี้ยว

ภาวะกรดไหลย้อนกลับสามารถเกิดขึ้นได้
ไม่จำเป็นต้องเป็นโรคกรดไหลย้อนเสมอไป
จะสรุปได้ว่าเป็นโรคกรดไหลย้อนก็ต่อเมื่อเป็นมานานต่อเนื่องและเกิดขึ้น
มากกว่า 2 ครั้งในหนึ่งสัปดาห์ จนทำให้เกิดอาการเจ็บป่วย

อาการของกรดไหลย้อน แบ่งได้เป็น 2 ระบบ คือ
- อาการทางหลอดอาหาร จะมีอาการเจ็บคอ กลืนลำบาก
รู้สึกเหมือนมีก้อนอยู่ในคอ แสบลิ้นเรื้อรังโดยเฉพาะในตอนเช้า
จุกแน่นหน้าอกคล้ายอาหารไม่ย่อย เรอบ่อย คลื่นไส้
อาการมักจะเป็นมากขึ้นหลังอาหารมื้อหลัก เวลาโน้มตัวไปข้างหน้า ยกของหนัก
หรือนอนหงาย ที่สำคัญคือจะมีอาการปวดแสบบริเวณหน้าอกและลิ้นปี่หรืออาจลามขึ้นมาที่คอ
เรอเปรี้ยวหรือรู้สึกขมในปาก

- อาการทางกล่องเสียงและปอด
จะมีเสียงแหบเรื้อรังหรือแหบเฉพาะตอนเช้า หรือมีเสียงผิดปกติไปจากเดิม
ไอเรื้อรัง ไอหรือสำลักในเวลากลางคืน กระแอมบ่อยๆ
บางรายอาจมีอาการทางระบบหายใจ เช่น หอบหืด หรืออาการเจ็บหน้าอกได้

ภาวะอาการเหล่านี้อาจทำให้หลอดอาหารอักเสบ หรือเป็นมากจนเกิดแผล
มีเลือดออก หรือทำให้ปลายหลอดอาหารตีบทำให้กลืนอาหารลำบาก
หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์เยื่อบุหลอดอาหาร
บางรายอาจรุนแรงจนถึงขั้นเป็นมะเร็งหลอดอาหารได้
นอกจากนี้ยังอาจทำให้โรคปอดแย่ลง เช่น โรคหอบหืดเป็นมากขึ้น ไอเรื้อรัง
หรือปอดอักเสบ

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ช่วยให้อาการของโรคกรดไหลย้อนดีขึ้นได้
- ผู้ที่มีน้ำหนักเกินควรลดน้ำหนัก
เพราะคนอ้วนจะมีความดันในช่องท้องสูง ทำให้เกิดกรดไหลย้อนได้มาก
- งดสูบบุหรี่ เพราะการสูบบุหรี่จะทำให้เกิดกรดมาก
และทำให้กล้ามเนื้อหูรูดไม่แข็งแรง
- หลีกเลี่ยงสุรา เบียร์ ชา กาแฟ น้ำอัดลม
ซึ่งจะกระตุ้นให้กระเพาะหลั่งกรดมากขึ้น
- งดอาหารมัน อาหารทอด อาหารรสจัด และอาหารที่ปรุงด้วยหัวหอม
กระเทียม มะเขือเทศ ผลไม้รสเปรี้ยว รวมทั้งช็อกโกแลต
- งดอาหารก่อนนอน 3 ชั่วโมง เพราะทุกครั้งที่รับประทานอาหาร
กระเพาะจะหลั่งกรดออกมาเพิ่มขึ้น เพิ่มความเสี่ยงที่กรดจะไหลย้อนกลับ
- รับประทานอาหารแต่พออิ่ม หรืออาจแบ่งเป็นมื้อเล็กๆ กินทีละน้อย
แต่กินบ่อยๆ
- นอนให้ศีรษะสูงประมาณ 6-10 นิ้ว โดยหนุนที่ขาเตียง
ไม่ควรใช้หมอนหนุนที่ศีรษะเพราะจะทำให้ความดันในช่องท้องสูงขึ้น
- ใส่เสื้อผ้าหลวมๆ เพื่อไม่ให้เกิดความดันในช่องท้อง
- หากอาการไม่รุนแรงนัก
การบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องจะช่วยให้การบีบรัดของกล้ามเนื้อกระเพาะอาหารทำงานได้ดีขึ้น

โรค กรดไหลย้อนสามารถรักษาให้หายได้โดยการรับประทานยาในกลุ่มยาลดกรดและยา
ยับยั้งการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร
รวมถึงยาที่ช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณกระเพาะอาหารทำงานได้ดีขึ้น
ควรรับประทานยาสม่ำเสมอตามแพทย์สั่ง ไม่ควรลดขนาดยาหรือหยุดยาเอง
และควรพบแพทย์ตามนัดอย่างต่อเนื่อง ผู้ป่วยบางรายอาจใช้เวลานานประมาณ 1-3
เดือน กว่าอาการจะดีขึ้น

นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงยาบางชนิดที่ทำให้กระเพาะหลั่งกรดมากขึ้น
หรือทำให้หูรูดหย่อน เช่น ยาแก้ปวดแอสไพริน NSAID และวิตามิน C

ส่วนการรักษาโดยการผ่าตัด จะใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการรุนแรง
เมื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการใช้ยาไม่ได้ผล
จึงจะใช้วิธีการผ่าตัดผูกหูรูดกระเพาะอาหารเพื่อไม่ให้กรดไหลย้อน

ติดตามฟังรายการ "Happy & Healthy"
ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.00-12.00 น.
ทางคลื่นของประชาชน FM 97.75 MHz
และ www.managerradio.com


ที่มา http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000051882

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น