++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

วิศวฯ ลาดกระบังสุดเจ๋ง! ใช้ไฟฟ้ากระตุ้น"เมล็ดข้าว" ระบุเปอร์เซ็นต์"งอกสูง"เพิ่มผลผลิตให้เกษตรกร

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์


ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง (สจล.) ผุดไอเดียสุดเจ๋ง ผลิต "เครื่องกระตุ้นเมล็ดพันธุ์ข้าวด้วยสนามไฟฟ้า" ขึ้น เพื่อเพิ่มเปอร์เซนต์การงอกของเมล็ดพันธุ์ข้าวและเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้สูงขึ้น
      
       ปัจจุบัน "ข้าว" ถือเป็นธัญญาหารหลักของชาวโลก และมีความหลากหลายทางชีวภาพสามารถปลูกขึ้นได้ง่ายมีความทนทานต่อทุกสภาพ ภูมิประเทศในโลก ไม่ว่าจะเป็นถิ่นแห้งแล้ง พื้นที่ราบลุ่มน้ำท่วมถึง หรือแม้กระทั่งบนเทือกเขาที่อากาศหนาวเย็น ข้าวก็ยังสามารถงอกขึ้นมาได้
      
       สำหรับประเทศไทย ข้าวเป็นพืชอาหารประจำชาติที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน และในอดีตประเทศไทยนับว่าเป็นผู้ส่งออกข้าวที่มีความสำคัญในอันดับต้นๆ แต่ปัจจุบันสถานการณ์กำลังเปลี่ยนแปลงไป โดยจากข้อมูลจากสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย พบว่า ในเดือน พฤศจิกายน 2551 ที่ผ่านมาไทยสามารถส่งออกข้าวได้เพียง 422,156 ตัน ต่ำสุดในรอบ 3 ปี หรือลดลง 63% เมื่อเทียบกับเดือน พ.ย.50 ที่ส่งออกได้ถึง 1.16 ล้านตัน ทั้งนี้ เนื่องจากข้าวไทยมีราคาสูงกว่าเวียดนาม และปากีสถานมากถึงตันละประมาณ 100 ดอลลาร์ โดยข้าวไทยมีราคาส่งออกตันละ 550 ดอลลาร์ ขณะที่เวียดนามส่งออกข้าวในราคาตันละ 450 ดอลลาร์เท่านั้น
      
       ทั้งนี้ ปัญหาการส่งออกข้าวไทยที่มีราคาสูงกว่าประเทศคู่แข่ง โดยเฉพาะเวียดนาม สาเหตุหนึ่งมาจากจำนวนผลผลิตต่อไร่ต่ำจึงทำให้ต้นทุนสูงขึ้น และอีกหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดส่งออก ข้าวของไทย
      
       จากสาเหตุดังกล่าว ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง (สจล.) นำโดย รศ.ศิริวัฒน์ โพธิเวชกุล และ ผศ.นรเศรษฐ พัฒนเดช จึงได้คิดค้น "เครื่องกระตุ้นเมล็ดพันธุ์ข้าวด้วยสนามไฟฟ้า" โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มเปอร์เซนต์การงอกของเมล็ดพันธุ์ข้าวและเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้สูงขึ้น
      
       "บัญชา แย้มสอาด" นักศึกษาจากภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. หนึ่งในทีมศึกษาเครื่องดังกล่าวเปิดเผยว่า เครื่องกระตุ้นเมล็ดพันธุ์ข้าวด้วยสนามไฟฟ้า ได้รับการออกแบบโดยใช้สนามไฟฟ้าที่มีความเข้มสนามไฟฟ้าสม่ำเสมอเข้ากระตุ้น เมล็ดพันธุ์ข้าวในเวลาที่เหมาะสม
      
       " อาศัยทฤษฎีที่ใช้ในการเพิ่มประจุไฟฟ้าเพื่อปรับปรุงคุณภาพเมล็ดข้าว เพื่อให้มีผลต่อองค์ประกอบหลัก 3 องค์ประกอบในทางที่ดีขึ้น คือ เปอร์เซนต์การงอกของต้นกล้า ความยาวของรากต้นข้าว และดัชนีการงอก ความแข็งแรงของลำต้น อันเป็นผลสืบเนื่องต่อความสมบูรณ์ของต้นข้าวทำให้มีผลผลิตและคุณภาพที่เพิ่ม ขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เพิ่มมูลค่าการส่งออกข้าวของประเทศและเพิ่มรายได้ให้กับ เกษตรกร"
      
       จากการศึกษาพบว่าเมล็ดพันธุ์ข้าวที่นำมาผ่านสนามไฟฟ้าที่มีความเข้ม ของสนามไฟฟ้า 3 กิโลโวลต์ต่อเซนติเมตร จะได้ความยาวรากเฉลี่ยสูงที่สุด โดยเมล็ดพันธุ์ที่พึ่งเก็บเกี่ยวจะใช้ระยะเวลาในการกระตุ้น 20 นาที และเมล็ดพันธุ์ที่พร้อมปลูกจะใช้ระยะเวลาในการกระตุ้น 30 นาที และในกรณีอัตราการงอกไม่แตกต่างกันมากระหว่างเมล็ดพันธุ์พร้อมปลูกและเมล็ด พันธุ์ที่พึ่งเก็บเกี่ยว เนื่องจากนำเมล็ดพันธุ์ที่มีความสมบูรณ์มาทำการเพาะนั่นเอง
      
       บัญชา อธิบายต่อว่า การกระตุ้นเมล็ดพันธุ์ข้าวด้วยสนามไฟฟ้ามีผลต่อการเจริญเติบโตของเมล็ด พันธุ์ โดยส่งผลให้ทำให้ความยาวของราก และจำนวนรากแขนงเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเมล็ดพันธุ์ที่ไม่ได้ผ่านสนามไฟฟ้า
      
       " ความยาวของรากเพิ่มขึ้นมีรากแขนงมากขึ้นจะส่งผลต่อการดูดซับแร่ภายในดิน ทำให้ต้นข้าวมีความแข็งแรงทำให้ผลผลิตต่อไร่สูงขึ้นในทางปฏิบัติ โดยยิ่งรากยาวยิ่งดูดซับอาหารได้ดี อัตรารอดสูง จากการที่กรมการข้าวนำไปทดลองปลูกที่จังหวัดสุรินทร์พบว่าปริมาณผลผลิตเพิ่ม ขึ้นจากเดิมถึง 20-30 เปอร์เซนต์ ”
      
       นักศึกษาจากรั้วลาดกระบัง กล่าวในตอนท้ายว่า ขณะนี้คณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล.กำลังนำแนวคิดจากเครื่องต้นแบบดังกล่าวไปพัฒนาสู่เครื่องที่มีขนาดใหญ่ เพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์ต่อไป
      
       ** สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง เลขที่ 3 หมู่ 2 ถนนฉลองกรุง เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร โทร.02-7392359 หรือ e-mail : kpsiriwa@kmitl.ac.th หรือ โทร.086-3689419

http://www.manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9520000043809

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น