++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2552

พธม.สงขลาหนุนผุดร้าน "เพื่อนช่วยเพื่อน" เล็งเชื่อมข้าวสาร ASTVกระจายต่างจังหวัด

โดย ASTVผู้จัดการรายวัน


ศูนย์ ข่าวหาดใหญ่ - พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.สงขลา
หนุนกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อนตั้งร้านสหกรณ์เพื่อช่วยเหลือลดค่าครองชีพ
โดยทดลองนำข้าวสารชนิดต่างๆ ที่มีคุณภาพมาจำหน่ายในราคายุติธรรม
ด้วยตัดค่าพ่อค้าคนกลางออก และปันผลทุกสิ้นปีให้กับสมาชิก
โดยจะมอบรายได้ส่วนหนึ่งให้กับ ASTV
ซึ่งเป็นจุดกำเนิดสร้างประชาชนให้เกิดความเข้มแข็งกลมเกลียวจากการร่วม
ต่อสู้ทางการเมืองตลอด 193 วัน
ด้านคณะกรรมการดำเนินงานเผยสนใจเชื่อมต่อเป็นเอเย่นต์ข้าวสาร ASTV
ตรามือตบ เพื่อกระจายในต่างจังหวัด
และช่วยเหลือให้สถานีข่าวประชาชนให้อยู่รอดอีกทางหนึ่ง

ภายหลังจากที่พี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.สงขลา
บางส่วนได้ริเริ่มตั้งกลุ่มเพื่อช่วยเพื่อน
เพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลอาชีพซึ่งกันและกัน ตลอดจนงานสังคมต่างๆ
โดยยึดมั่นในความรัก ความสามัคคีของหมู่คณะเป็นที่ตั้ง
โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนนั้น

ล่าสุดมติสมาชิกได้เตรียมความพร้อมเปิดร้านค้า "เพื่อนช่วยเพื่อน"
ตั้งอยู่เลขที่ 207 ถ.นิพัทธ์อุทิศ1 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
โดยทดลองเพื่อจำหน่ายข่าวสารให้แก่สมาชิก
เนื่องจากเป็นสินค้าปัจจัยสี่ที่ทุกครัวเรือนมีความต้องการ
ซึ่งจะเปิดร้านอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มีนาคม

นางจินตนา สังฆรัตน์ คณะกรรมการดำเนินงาน เปิดเผยว่า
ขณะนี้ได้วางแผนจำหน่ายข้าวสาร 5 ชนิด เช่น ข้าวหอมมะลิ 100% ข้าวหอม
ข้าวขาว และข้าวเหนียว เป็นต้น
ซึ่งอยู่ระหว่างการติดต่อข้าวสารโดยตรงมาจากโรงสีใน จ.บุรีรัมย์
และสุรินทร์ โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางทำให้มีราคาถูก
การจำหน่ายจะมีการบริการส่งสินค้าภายในตัวเมืองหาดใหญ่
ส่วนนอกตัวเมืองจะคิดค่าน้ำมันตามระยะทาง
เนื่องด้วยสมาชิกมีทั้งประชาชนที่ซื้อบริโภคภายในครอบครัว
และประกอบกิจการร้านอาหาร

การจัดการร้านใช้รูปแบบกึ่งสหกรณ์ มีสมาชิกร้านค้ามี 2 ประเภท คือ
1. เป็นผู้ถือหุ้น (เป็นเจ้าของ)ราคาหุ้นละ 100 บาท และ
2.เป็นผู้ซื้อสินค้า (ไม่ซื้อหุ้น) ราคาหุ้นละ 100 บาท
ผลตอบแทนนอกจากสมาชิกจะได้ซื้อสินค้าคุณภาพดีในราคายุติธรรมแล้ว
ยังจะได้รับปันผลจากกำไรสิ้นปีหลังหักค่าใช้จ่ายและทุนสำรองแล้วตามปริมาณ
หุ้นที่ถือ หรือได้รับปันผลจากตามยอดซื้อสะสม กำไรสิ้นปี
หลังหักค่าใช้จ่ายและทุนสำรอง
นอกจากนี้หากมีการแนะนำต่อก็จะได้รับค่าตอบแทนในชั้นแรกอีกด้วย


หน้าร้านแห่งนี้จะเปิดเป็นร้านค้า" เพื่อนช่วยเพื่อน"เพื่อจำหน่ายสินค้า
นำรายได้ส่วนหนึ่งมอบให้ASTV
"จุดมุ่งหมายหนึ่งของกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน คือ
จะนำรายได้ส่วนหนึ่งของจะบริจาคให้แก่ ASTV
ซึ่งเป็นสื่อหลักที่ทำให้พลังภาคประชาชนเกิดองค์ความรู้
และตื่นตัวเรื่องจิตสำนึกสาธารณะ
หรือองค์กรใดองค์กรหนึ่งที่เป็นประโยชน์กับพันธมิตรฯ จ.สงขลา
ในการขับเคลื่อนการเมืองภาคประชาชน
เพราะที่เกิดกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อนได้ก็เพราะเหล่าพันธมิตรฯ
และยังเป็นพี่เลี้ยงในการให้คำแนะนำในการเติบโตของเราด้วย"

ส่วนนายบุญเติม วุฒิรัตน์ คณะกรรมการดำเนินงาน เปิดเผยว่า
ในวันนี้ทางร้านค้าจะทำกิจการแบบเล็กๆ
แต่หากมีกระแสการตอบรับดีจะนำสินค้าจำเป็นอื่นๆ
ต่อชีวิตประจำวันมาจำหน่ายเพิ่มเติมเพื่อเป็นการลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น
เนื่องจากปัจจุบันนั้นเศรษฐกิจไม่ได้เฟื่องฟูเหมือนดังเดิม
ซึ่งนอกจากเป็นจุดจำหน่ายสินค้าแล้ว จะทำให้สมาชิกได้มีโอกาสพบปะ
แลกเปลี่ยนความคิด ให้ความช่วยเหลือด้านอื่นๆ
และสร้างความกลมเกลียวซึ่งกันและกัน

อย่างไรก็ตาม สำหรับการจำหน่ายข้าวสารถุง ASTV ตรามือตบนั้น
ทางกลุ่มก็มีความสนใจว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะนำมาจำหน่ายที่ร้านเพื่อนช่วย
เพื่อนด้วย เนื่องจากจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้พี่น้องพันธมิตรฯ
ได้เลือกบริโภคและสนับสนุน ASTV ให้อยู่รอดได้
แต่ยังต้องศึกษารายละเอียดว่า บริษัทมีกฎเกณฑ์อย่างไรบ้าง
สอดรับกับอีกเป้าหมายหนึ่งที่ทางกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อนได้เตรียมความพร้อม
สร้างความเข้มแข็งจากกลุ่มเล็กๆ สู่การเชื่อมโยงกับโครงการ PAD Directory
หรือโครงการธุรกิจเข้มแข็งในเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ซึ่งมีเครือข่ายขนาดใหญ่ครอบคลุมทั่วประเทศต่อไป

ด้านนายสุมิตร นวลมณี รองประธานกรรมการฝ่ายปฏิบัติการ
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.สงขลา
ในฐานะกรรมการที่ปรึกษาร้านค้าเพื่อนช่วยเพื่อน เปิดเผยว่า
หลังจากที่ประชาชนได้ผ่านการต่อสู้ทางการเมืองกว่า 193 วันมาแล้ว
ก็ต้องนำเอาความรู้และจิตสำนึกสาธารณะมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาตัวเอง
ก่อนจะขยายสู่วงกว้าง
เหมือนดังกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อนที่หันมาพัฒนาบ้านเกิดตัวเองตามศักยภาพ
จนเกิดความเข้มแข็ง และอยู่รอดท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ หากกลุ่มเล็กๆ
ในสังคมเกิดความสามัคคี เข้มแข็ง ประเทศชาติก็จะอยู่ได้

"การเปิดร้านขายข้าวสารเพื่อนช่วยเพื่อน
ไม่ต้องกังวลว่าจะซ้ำกับการจำหน่ายข้าวสาร ASTV
เพราะที่กำลังทำอยู่ก็เป็นการช่วยพี่น้องพันธมิตรฯ
ให้ติดต่อค้าขายซึ่งกันและกันตามศักยภาพอยู่แล้ว
ซึ่งถ้าเราช่วยตัวเองได้ก็เหมือนได้ช่วย ASTV
ที่เป็นสื่อตัวแทนของประชาชน
สิ่งที่กำลังทำทั้งหมดนี้ล้วนมาจากรากเหง้าความเข้าใจทางการเมืองเดียวกัน
และเชื่อว่าจะดีกว่าโครงการแจกเงิน 2,000 บาทของรัฐบาลเสียด้วยซ้ำ
เพราะไม่มีการกินนอกกินใน แต่ทำอย่างโปร่งใสและเกื้อกูลทั้งระบบ"
นายสุมิตรกล่าว


http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9520000028149

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น