 |
| โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ | 15 ธันวาคม 2551 15:15 น. |
|
วันนี้ (15 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชน ข้าราชการ นักธุรกิจ ชาวจังหวัดนครราชสีมา ได้ให้ความสนใจติดตามการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของประเทศไทยผ่านการถ่ายทอดสดทั้งทางสถานีโทรทัศน์ และสถานีวิทยุกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะติดตามชมการถ่ายทอดทางสถานีโทรทัศน์อยู่ในบ้านพัก สำนักงาน และตามร้านอาหารต่างๆ
โดยเฉพาะที่สภากาแฟบริเวณสี่แยกเต็กฮะ เขตเทศบาลนคนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา บรรดาคอการเมืองได้มาจับกลุ่มเฝ้าติดตามชมการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีผ่านสถาน ีโทรทัศน์ที่ร้านอาหารเปิดให้ลูกค้าได้ชมอย่างคึกคัก และตั้งกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ ส.ส.นครราชสีมา ที่มีการแบ่งเป็น 2 ขั้วอย่างชัดเจน และมีการแหกมติพรรค รวมทั้ง ส.ส.นครราชสีมาบางคนได้งดออกเสียงด้วย ขณะที่กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่ขายสินค้าตามข้างถนน ไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก เนื่องจากอ้างว่าต้องวุ่นอยู่กับการทำมาหากินเลี้ยงชีพมากกว่า
อย่างไรก็ตาม ประชาชนชาวโคราชส่วนใหญ่เห็นว่า แม้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จะได้รับโหวตเป็นนายกรัฐมนตรีตามที่หลายฝ่ายคาดหวัง แต่บ้านเมืองก็จะยังคงมีความวุ่นวายอยู่ เนื่องจากจะมีกลุ่มมวลชนเสื้อแดงที่นักการเมืองฝ่ายอดีตรัฐบาลหนุนหลังออกมา เคลื่อนไหวคัดค้านเพราะไม่ได้ดั่งใจที่กลุ่มตัวเองสนับสนุน อย่างไรก็ตาม อยากเรียกร้องให้คนกลุ่มนี้ได้คิดถึงชาติบ้านเมือง ไม่ว่าใครจะขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีควรให้เวลาในการทำงาน ขอให้ผลงานพิสูจน์จะดีกว่า
น อกจากนี้ ชาวโคราชยังขอฝากไปยังนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ให้เร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเนื่องจากประชาชนผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่น และไม่กล้าใช้จ่ายจึงทำให้ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ขายสินค้าไม่ดี รายได้หดหาย และจะมีคนตกงานเป็นจำนวนมากในปีหน้านี้ พร้อมกันนี้รัฐบาลใหม่ต้องเร่งแก้ปัญหาความแตกแยกและสร้างความรักสามัคคีให้ เกิดขึ้นในชาติบ้านเมืองโดยเร็ว
--------------------
หอการค้าเลยแนะ “มาร์ค” จัด ครม.ดูความสามารถเป็นเกณฑ์
|
| โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ | 15 ธันวาคม 2551 15:21 น. |
|
หลังจากสภาผู้แทนราษฎรโหวตเลือกให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 นายสมศักดิ์ ขจรเฉลิมศักดิ์ ประธานหอการค้าจังหวัดเลย ได้แสดงความเห็นว่าน่าจะเป็นทางออกทางการเมืองที่ดี อยากให้โอกาสนายอภิสิทธิ์ได้บริหารประเทศสักระยะ เพราะบ้านเมืองเสียหายมามากแล้ว
ส่วนการตั้งคณะรัฐมนตรีควรยึดถือความรู้ความสามารถ มีคุณธรรม ปราศจากคอร์รัปชัน ไม่ควรตั้งตามสัดส่วนหรือโควตาจำนวน ส.ส.เหมือนที่ผ่านมา และต้องรักษาเสถียรภาพทางการเมืองให้ได้ เพื่อความต่อเนื่องของการบริหารงาน
สิ่งที่อยากให้รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ให้เร่งทำก็คือ แก้ไขปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ สร้างงาน สร้างอาชีพให้ประชาชนที่กำลังตกงานจำนวนมาก พร้อมทั้งเร่งกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้ฟื้นตัวโดยเร็ว และให้ธนาคารพาณิชย์ผ่อนผันการปล่อยสินเชื่อให้ผู้ประกอบการเคลื่อนไหวด้านก ารลงทุน
--------------------
ชาวสวนยางเมืองคอนวอน “นายกฯ มาร์ค” เร่งแก้ปัญหาราคายางพาราด่วน
|
| โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ | 15 ธันวาคม 2551 14:56 น. |
|
ที่ จ.นครศรีธรรมราช นายสมศักดิ์ พงศ์ภัณฑารักษ์ นายกสมาคมสมาพันธ์ชาวสวนยางพาราแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าหลังจากที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้รับเลือกเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของประเทศไทย ถือว่าเป็นเสมือนแผลการเมืองที่กลัดหนองอย่างหนักได้แตกออกมาแล้ว อาการอักเสบทางการเมืองอย่างหนักคงจะผ่อนคลายลง แต่สิ่งที่ชาวสวนยางทั้งประเทศกำลังรอที่จะให้รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เข้ามาแก้ปัญหาคือเรื่องยางพาราที่จะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด และเร่งด่วนปัจจุบันราคายางต่ำกว่า 30 บาทต่อ กก.แล้ว ในขณะที่ดัชนีปี 50 นั้นได้คิดคำนวณต้นทุนในการผลิตยางพารานั้นอยู่ที่ กก.ละ 56 บาท บวกกับกำไรที่เกษตรกรควรมีอีก 15 เปอร์เซ็น ดังนั้น รัฐบาลควรเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิดราคายางไม่ควรต่ำกว่า 56 บาทบวก 15 เปอร์เซ็นเป็นราคาหลัก
นายกสมาคมสมาพันธ์ชาวสวนยางพาราแห่งประเทศไทย กล่าวต่อว่า ราคาในวันนี้เชื่อว่ากลไกของพ่อค้าคนกลางเป็นปัจจัยหลักในการกดราคา เศรษฐกิจทั่วโลกที่ไม่ดีเป็นเพียงเป็นปัจจัยหนึ่ง แต่การที่ราคายางลงมาเรื่อยถือเป็นเรื่องที่ผิดปกติอย่างยิ่ง ในส่วนของชาวยางนั้นขอแจ้งไปยังรัฐบาลล่วงหน้าว่าชาวสวนยางกำลังเตรียมที่จะ เคลื่อนไหวครั้งใหญ่เมื่อหลายปีก่อน โดยใช้สถานที่เดิมคือที่แยกหนองดี ต.ทุ่งสง อ.นาบอน ทีมแกนนำเกษตรกรจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ซึ่งเวลานี้อยู่ในระหว่างการเตรียมการโดยการออกแถลงการณ์ออกใบปลิวเชิญชวนชา วสวนยางเข้าร่วมการชุมนุมแก้ไขปัญหาปากท้องของตัวเอง
“เรากำลังติดตามปัจจัยทางการเมืองอย่างใกล้ชิด และดูท่าทีทางการเมืองของรัฐบาลว่าจะเอาอย่างไรกับปัญหายางพารา และหากไม่ได้รับการสนใจแก้ไขปัญหาเราต้องขอโทษประชาชนที่ใช้เส้นทางหลักถนนส าย 41 ซึ่งเป็นถนนหลักของภาคใต้เราจะต้องปิดถนนอีกครั้ง ในฐานะที่นายอภิสิทธิ์ว่าที่นายกรัฐมนตรีที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ขอให้ดูแลชาวสวนยางด้วยความจริงใจเชื่อว่าปัญหาเหล่านี้จะถูกแก้ได้” นายสมศักดิ์ กล่าว
----
ชาวตรังเฮ! ได้รัฐบาลชุดใหม่ “มาร์ค” นั่งนายกฯ
|
| โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ | 15 ธันวาคม 2551 14:45 น. |
ตรัง – ปชช.ตรังแสดงความดีใจกับการเมืองใหม่ด้วยความคึกคัก ฝ่ายใต้ความหวังเศรษฐกิจของประเทศดีกว่าเดิม ผู้อำนวยการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ศูนย์ตรัง เป็นห่วงเรื่องปัญหาบ้านเมืองที่ยังค้างคาอยู่ ชี้ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ต้องบริหารประเทศอย่างชัดเจนและจริงจัง
วันนี้ (15 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดตรัง ได้ออกไปติดตามบรรยากาศการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 27 ซึ่งเป็นไปอย่างคึกคัก โดยประชาชนชาวจ.ตรัง มีการติดตามการถ่ายทอดสดทางทีวีอย่างไม่ละสายตา หรือไม่ยอมพลาดการออกเสียงโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กับ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน จากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่เข้าร่วมในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีจำนวนทั้งสิ้น 436 เสียง
กระทั่งผลการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีเสร็จสิ้น ปรากฏว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับการโหวตเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 27 ด้วยคะแนนเสียงจำนวน 235 เสียง ส่วน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ได้รับคะแนนโหวตจำนวน 198 เสียง และมีการงดออกเสียงจำนวน 3 เสียง ทำให้พี่น้องประชาชนชาวตรังที่มีการติดตามบรรยากาศมาตั้งแต่เริ่มการโหวตเลื อกนายกรัฐมนตรีนั้น มีการแสดงความยินดีร่วมกันระหว่างผู้ที่ติดตามชมด้วยสีหน้าที่สดใสและใบหน้า ที่ยิ้มแย้ม พร้อมทั้งวิพากษ์วิจารณ์ถึงนายกรัฐมนตรีคนใหม่อย่างมีความสุข
อย่างไรก็ตาม ประชาชนชาว จ.ตรังบางส่วน เช่น ตามห้างร้านต่างๆ ในเขตเทศบาลนครตรัง ได้มีการแสดงความยินดีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้รับการโหวตเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ด้วยการจุดปะทะดังสนั่นหวั่นไหวอย่างคึกคัก เพื่อแสดงออกถึงความดีใจ ที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยต่างคาดหวังว่าจะสามารถเข้ามาช่วยเหลือให้เศรษฐกิจดีขึ้นได้
นายสฤษดิ์ ธัญกิจจานุกิจ ผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ศูนย์ตรัง และนักวิชาการด้านกฎหมายชื่อดังของจังหวัดตรัง กล่าวว่า แม้เสียงประชาชนชาวตรังส่วนใหญ่ หรือประมาณ 80% จะเห็นด้วยต่อการที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี และพรรคประชาธิปัตย์ได้กลับมาเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้ง แต่ยังมีปัญหาต่างๆ มากมายที่รออยู่ข้างหน้า เพื่อให้รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์เข้ามาแก้ไข โดยเฉพาะปัญหาเรื่องเศรษฐกิจที่ตกต่ำอย่างหนัก รวมทั้งสถานการณ์ทางการเมืองที่วุ่นวายทั้งภายในสภา และนอกสภา อย่างกลุ่มม็อบเสื้อแดง ที่จะมีเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงในภาคเหนือ และภาคอีสาน
น อกจากนั้น เสียงของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ที่ไม่มีเสถียรภาพมากพอ เพราะแค่เพียงพรรคใด หรือกลุ่มใดที่ร่วมรัฐบาล และมีเสียงประมาณ 30 เสียง เกิดเปลี่ยนใจหันไปสนับสนุนยังอีกฝ่ายหนึ่ง ก็จะส่งผลกระทบทันทีต่อรัฐบาลของ นายอภิสิทธิ์ ถึงขั้นต้องยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ ตลอดจนการประสานเรื่องผลประโยชน์กับพรรค หรือกลุ่มร่วมรัฐบาล และเรื่อง ส.ด.43 หรือการเกณฑ์ทหารของ นายอภิสิทธิ์ ที่ยังไม่มีคำชี้แจงที่ชัดเจน ดังนั้น จึงเชื่อว่ารัฐบาลใหม่ที่นำโดยพรรคประชาธิปัตย์ น่าจะอยู่บริหารประเทศได้ประมาณ 3-4 เดือน นอกจากทำผลงานออกมาได้อย่างชัดเจนและจริงจัง ก็อาจจะอยู่ได้นานถึง 1 ปี แต่คงไม่ครบเทอม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น